28 ตุลาคม 15

Mike Wacher

7 อาการของการติดเชื้อ HIV ระยะเริ่มแรก

อาการแต่ละอย่างของการติดเชื้อ HIV แตกต่างกันไปตามบุคคล หากคุณมีชีวิตทางเพศที่โลดโผน หรือคิดว่าคุณอาจสัมผัสเชื้อ HIV มา เป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องเข้ารับการตรวจ ต่อไปนี้ เป็นอาการทั่วไปของการติดเชื้อ HIV โดยหลาย ๆ คนมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกายของคุณต่อไวรัส หรือที่เรียกว่าช่วงเวลา ‘การเปลี่ยนแปลงของการติดเชื้อ’ (seroconversion)

อาการของการติดเชื้อ HIV อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว อาการเริ่มแรกของการติดเชื้อจะเกิดขึ้นภายใน 1-2 เดือนแรก ผู้ป่วยจำนวนมาก แต่ไม่ใช่ทุกคนจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ซึ่งเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกายของคุณต่อไวรัส ซึ่งเรียกว่าช่วงเวลา ‘การเปลี่ยนแปลงของการติดเชื้อ’

ในช่วงเวลานี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการบ่งชี้ว่าเชื้อ HIV เป็นสาเหตุหรือไม่ เนื่องจากหากว่าปริมาณเชื้อไวรัส (ไวรัสโหลด) ของคุณสูงมาก ก็จะไปเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่เชื้อได้อย่างมาก และวิธีเดียวที่จะรู้ได้อย่างแน่นอนคือการเข้ารับการตรวจ

อาการที่ 1 มีไข้

อาการแรกของการติดเชื้อ HIV ปกติจะมีไข้ ซึ่งมักจะมาพร้อมกับอาการไม่รุนแรงอื่น ๆ เช่น อ่อนเพลีย ต่อมน้ำเหลืองบวม และอาการเจ็บคอ ณ จุดนี้ เชื้อไวรัสกำลังเคลื่อนที่เข้าสู่กระแสเลือด และเริ่มขยายตัวเป็นจำนวนมาก ในขณะที่เกิดขึ้นนี้ ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อการอักเสบขึ้นได้

อาการที่ 2 เหนื่อยล้าและปวดศีรษะ

การตอบสนองต่อการอักเสบที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกควบคุมของคุณ อาจทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยและง่วงได้ บางครั้ง อาจทำให้คุณรู้สึกหมดแรงในขณะที่เดินหรือโดยทั่วไปรู้สึกว่าหายใจไม่ทัน ความเหนื่อยล้าอาจเป็นอาการของทั้งระยะเริ่มแรกและระยะหลังของการติดเชื้อ HIV ก็ได้

อาการที่ 3 ต่อมน้าเหลืองบวม ปวดกล้ามเนื้อ และปวดข้อ

ต่อมน้ำเหลืองเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งปกป้องเลือดของคุณโดยช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ต่อมน้ำเหลืองมักจะอักเสบเมื่อมีการติดเชื้อเกิดขึ้น ต่อมน้ำเหลืองต่าง ๆ อยู่ที่รักแร้ ขาหนีบ และลำคอของคุณ ซึ่งการติดเชื้ออาจมีผลทำให้เกิดอาการปวดและเจ็บในบริเวณเหล่านี้ได้

อาการที่ 4 ผื่นที่ผิวหนัง

ผื่นที่ผิวหนังอาจเกิดขึ้นในระยะเริ่มต้น หรือระยะหลังของช่วงการเปลี่ยนแปลงของการติดเชื้อ HIV ก็ได้ ในบางกรณี ผื่นที่เกิดขึ้นอาจดูคล้ายฝีหนอง ซึ่งมีอาการคันและมีสีชมพู

อาการที่ 5 คลื่นไส้ อาเจียนและท้องเสีย

หลายคนจะประสบกับปัญหาระบบย่อยอาหารเป็นอาการระยะเริ่มแรกของการติดเชื้อ HIV อย่างไรก็ตาม อาการคลื่นไส้ อาเจียนและท้องเสียอาจปรากฏขึ้นในระยะต่อมาของการติดเชื้อ ซึ่งมักจะเป็นผลของการติดเชื้อฉวยโอกาส

จึงเป็นสิ่งสาคัญที่จะรักษาร่างกายไม่ให้ขาดน้า อาการท้องเสียที่ไม่หยุดหย่อนและตอบสนองต่อการรักษาตามปกติอาจจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าเป็นอาการติดเชื้อ HIV

อาการที่ 6 เจ็บคอและไอแห้ง

การไอแห้งและรุนแรงที่ไม่หายขาดเป็นเวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน โดยดูเหมือนจะไม่สามารถรักษาได้ (ถึงแม้จะใช้ยาปฏิชีวนะและยาสูดพ่นแล้ว) เป็นอาการหลักทั่วไปของผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV ในขั้นป่วยหนัก

อาการที่ 7 เหงื่อออกตอนกลางคืน

หลายคนจะมีเหงื่อออกตอนกลางคืนในช่วงระยะแรกของการติดเชื้อ HIV ซึ่งสามารถพบได้บ่อยมากกว่าในระยะหลังของการติดเชื้อ และไม่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายหรืออุณหภูมิของห้อง

ด้วยอาการที่หลากหลายเช่นนี้ การเข้ารับการตรวจเชื้อ HIV จึงมีความสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง หากคุณคิดว่าคุณสัมผัสเชื้อ HIV มา หรือมีชีวิตทางเพศที่ไม่หยุดหย่อนกับคู่นอนชั่วคราว ไม่ว่าคุณจะมีอาการของเชื้อ HIV แสดงออกมาหรือไม่ก็ตาม เป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องไปเข้ารับการตรวจโดยเร็วที่สุด

หากคุณอยู่ที่ซิดนีย์ คุณสามารถเข้ารับการตรวจเชื้อ HIV แบบรวดเร็ว และการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ที่ a[TEST]. หากคุณต้องการเข้ารับการตรวจเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ผ่านการบริการล่าม คุณสามารถทำได้เช่นกันที่คลินิกสุขภาพทางเพศซิดนีย์ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ หากคุณพูดภาษาอังกฤษได้และไม่ได้อยู่ที่ซิดนีย์ คุณสามารถเข้ารับการตรวจเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แบบรวดเร็วโดยใช้เครื่องมือของเราที่เรียกว่า ‘รับการตรวจได้ที่ไหน’ ได้ที่นี่